ชาหมัก (Fermented Tea): ประโยชน์ วิธีทำ และเหตุผลที่คุณควรลอง

ชาหมัก

ชาหมัก คือเครื่องดื่มที่ทำจากใบชาซึ่งผ่านการหมักโดยธรรมชาติ โดยใช้จุลินทรีย์ที่ดีต่อสุขภาพ เช่น แบคทีเรียแลคโตบาซิลลัสและยีสต์ ซึ่งช่วยเปลี่ยนน้ำตาลในชาธรรมดาให้กลายเป็นกรดอินทรีย์ วิตามิน และเอนไซม์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีรสชาติเปรี้ยวหวานซ่าเล็กน้อย ดื่มแล้วสดชื่น ชาหมักมีประวัติยาวนานนับพันปีในวัฒนธรรมจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี และปัจจุบันได้รับความนิยมทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย เนื่องจากประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร ผิวพรรณ และการเสริมภูมิคุ้มกัน เป็นทางเลือกของคนรักสุขภาพที่อยากลดน้ำตาล ลดน้ำอัดลม และหันมาดื่มอะไรที่ดีต่อร่างกายมากขึ้น

ประโยชน์ของชาหมัก

ประโยชน์ของ ชาหมัก มีมากมายโดยเฉพาะในเรื่องการดูแลระบบทางเดินอาหาร เพราะในชาหมักมีโปรไบโอติกส์ธรรมชาติ ซึ่งช่วยปรับสมดุลลำไส้ ทำให้ขับถ่ายดีขึ้น ลดอาการแน่นท้อง ท้องอืด อีกทั้งยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น เพราะจุลินทรีย์ดีเหล่านี้สามารถกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระจากใบชา ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ นอกจากนี้หลายคนยังบอกว่าดื่มชาหมักแล้วช่วยลดเครียด ทำให้นอนหลับดีขึ้น เพราะระบบย่อยอาหารที่สมดุลสามารถส่งผลต่อสารเคมีในสมองที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ได้เช่นกัน

ชาหมักมีกี่ประเภท

ชาหมัก แบ่งออกได้หลายประเภท โดยชนิดที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ คอมบูฉะ ซึ่งเกิดจากการหมักน้ำชากับน้ำตาลและจุลินทรีย์ที่เรียกว่า SCOBY ทำให้ได้เครื่องดื่มที่มีรสชาติเปรี้ยวเล็กน้อยและมีฟองซ่าแบบธรรมชาติ อีกประเภทคือ พูเอ๋อร์ ซึ่งเป็นชาดำที่ผ่านการหมักแห้งนานหลายปี ทำให้มีรสเข้ม ขมละมุน อีกแบบหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมคือการนำสมุนไพรไทย เช่น ใบเตย ขิง หรือกระเจี๊ยบ มาหมักรวมกับชาเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและสรรพคุณเฉพาะตัว ซึ่งไม่ว่าจะเป็นชนิดไหนก็ตาม ทุกแบบล้วนมีจุลินทรีย์ดีที่เป็นหัวใจของประโยชน์ในชาหมักทั้งสิ้น

วิธีทำชาหมักง่าย ๆ ที่บ้าน

การทำ ชาหมัก เองที่บ้านไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่เตรียมใบชา (นิยมใช้ชาดำหรือชาเขียว), น้ำตาลทราย, และ SCOBY (จุลินทรีย์หัวเชื้อที่หาได้ตามร้านสุขภาพหรือออนไลน์) เริ่มจากต้มน้ำชาแล้วใส่น้ำตาล คนให้ละลาย รอให้เย็นแล้วเติม SCOBY ลงไป จากนั้นเทใส่ขวดแก้ว ปิดฝาด้วยผ้าหรือกระดาษเพื่อให้ระบายอากาศ แล้วตั้งไว้ในที่แห้ง ไม่โดนแสงแดดประมาณ 7-10 วัน ระหว่างหมักจะเกิดฟองเล็ก ๆ และมีกลิ่นเปรี้ยวเล็กน้อย จากนั้นกรองเอา SCOBY ออกและสามารถเก็บไว้ดื่มหรือเติมรสชาติด้วยผลไม้ตามชอบ การทำเองช่วยให้ควบคุมรสชาติ ความหวาน และสะอาดปลอดภัยอีกด้วย

ดื่มชาหมักยังไงให้ดีต่อสุขภาพ

การดื่ม ชาหมัก ควรเริ่มจากปริมาณน้อยก่อน วันละประมาณครึ่งแก้วถึงหนึ่งแก้ว เพื่อให้ร่างกายปรับตัวกับจุลินทรีย์ใหม่ ๆ ที่ได้รับเข้าไป และควรดื่มในช่วงท้องว่างหรือก่อนอาหารสัก 15-30 นาที เพื่อให้ระบบย่อยอาหารได้รับประโยชน์สูงสุด ไม่ควรดื่มเกิน 2 แก้วต่อวัน เพราะอาจทำให้ท้องเสียในบางรายหากดื่มมากเกินไป สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่ม และควรเลือกชาหมักที่ไม่มีน้ำตาลสูงหรือแต่งกลิ่นสีสังเคราะห์ เพื่อไม่ให้เสียคุณค่าดั้งเดิมของมัน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับชาหมัก

หลายคนสงสัยว่า ชาหมัก มีแอลกอฮอล์หรือไม่ คำตอบคือมีในปริมาณน้อยมากตามธรรมชาติของการหมัก ซึ่งโดยทั่วไปไม่เกิน 0.5% ถือว่าปลอดภัยและไม่ถือว่าเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนคำถามว่าทำไมบางขวดถึงมีตะกอนหรือฟอง นั่นเป็นผลจากการหมักตามธรรมชาติ และยืนยันว่าชายังคงมีชีวิต ไม่ใช่สิ่งผิดปกติ และหลายคนถามว่าสามารถเก็บได้นานไหม โดยทั่วไปถ้าเก็บในตู้เย็นสามารถอยู่ได้ 1-2 สัปดาห์หลังเปิดขวด แต่หากยังไม่เปิด สามารถอยู่ได้นานหลายเดือน ประภาภรณ์ เชยวัดเกาะ

สรุปส่งท้าย

ชาหมัก ไม่ใช่แค่เครื่องดื่มธรรมดา แต่เป็นแหล่งของสุขภาพจากธรรมชาติที่ทั้งช่วยระบบย่อย เสริมภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงของโรค และยังมีรสชาติแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร เหมาะกับยุคที่ผู้คนเริ่มใส่ใจสุขภาพมากขึ้น และอยากหลีกเลี่ยงน้ำหวาน น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มสังเคราะห์ การเลือกดื่มชาหมักหรือลองทำเองที่บ้านเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่ใคร ๆ ก็เริ่มได้ทันที แม้เพิ่งรู้จักชาหมักเป็นครั้งแรกก็ตาม

Leave a Comment