งูลายสอ (Painted Keelback) – ทุกเรื่องที่คุณควรรู้

dailywatchnew@gmail.com

งูลายสอ

งูลายสอเป็นงูน้ำชนิดหนึ่งที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย โดยมีชื่อเรียกเชิงวิทยาศาสตร์แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ เช่น Fowlea piscator หรือ Xenochrophis flavipunctatus ซึ่งชื่อ “ลายสอ” มาจากลายเส้นสีดำพาดขวางหรือลายจุดบนลำตัวที่คล้ายรอยเส้นดินสอ งูลายสอเป็นงูไม่มีพิษ ไม่เป็นอันตรายต่อคน สามารถพบได้บ่อยตามท้องนา คลอง หนองน้ำ หรือแม้กระทั่งสวนหลังบ้านในฤดูฝน พฤติกรรมของงูลายสอมักจะหลบหนีมากกว่าจะเข้ามาทำร้ายมนุษย์ จึงไม่ควรเข้าใจผิดว่าเป็นงูพิษและไล่ตี งูลายสอยังมีบทบาทสำคัญในการควบคุมประชากรสัตว์น้ำขนาดเล็ก เช่น ปลา กบ และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำอื่น ๆ ที่อยู่ในระบบนิเวศทางน้ำของไทยอีกด้วย

ลักษณะทางกายภาพ

ลักษณะเด่นของงูลายสอคือรูปร่างเพรียว ความยาวเฉลี่ยประมาณ 80 เซนติเมตรถึง 1 เมตร ลำตัวสีเทา น้ำตาล เขียว หรือดำตามสภาพแวดล้อม โดยมีลายเส้นยาวตามแนวลำตัวซึ่งอาจเป็นเส้นตรง เส้นคลื่น หรือจุดสีเหลืองบนพื้นเข้ม ซึ่งช่วยในการพรางตัวในธรรมชาติ หัวของงูลายสอมักจะแบนและยาวเล็กน้อย ดวงตากลมโต เกล็ดลำตัวมีลักษณะขรุขระหรือเป็นสันนูนเล็กน้อย ช่วยให้สามารถว่ายน้ำได้ดี อีกทั้งยังมีเกล็ดท้องแบนที่ช่วยให้เคลื่อนที่บนพื้นได้คล่องตัว งูลายสอไม่มีเขี้ยวพิษและไม่มีต่อมพิษเหมือนงูเห่า จึงจัดเป็นงูไม่มีพิษโดยสมบูรณ์

พฤติกรรมและที่อยู่อาศัย

งูลายสอเป็นงูกึ่งน้ำกึ่งบกที่มักพบในพื้นที่ชื้นและใกล้แหล่งน้ำ เช่น ทุ่งนา หนองน้ำ ลำคลอง และสวนชื้นในเขตชานเมือง โดยเฉพาะในฤดูฝนจะพบเห็นได้บ่อยขึ้นเพราะน้ำเอ่อล้นพื้นที่ต่ำ งูลายสอชอบออกหากินในเวลากลางวัน โดยเฉพาะในช่วงเช้าและเย็น อาหารหลักได้แก่ ปลาเล็ก กบ เขียด และลูกอ๊อด ซึ่งจับโดยใช้ปากกัดและกลืนทั้งตัว งูชนิดนี้ว่ายน้ำเก่ง เคลื่อนไหวเร็ว และสามารถปีนขึ้นพงหญ้าหรือรากไม้ได้อย่างคล่องแคล่ว เมื่อถูกรบกวนหรือคุกคาม มักจะพยายามหนีลงน้ำหรือเข้าโพรง ไม่ค่อยต่อสู้กับศัตรูหรือมนุษย์ เว้นแต่ถูกจับหรือเหยียบโดยไม่ตั้งใจ

งูลายสอมีพิษหรือไม่?

คำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับงูลายสอคือ “มันมีพิษหรือเปล่า” คำตอบคือ งูลายสอไม่มีพิษ อย่างแน่นอน และไม่สามารถฆ่าหรือทำอันตรายถึงชีวิตมนุษย์ได้ โดยฟันของมันไม่ใช่เขี้ยวพิษ ไม่มีต่อมพิษ และไม่สามารถฉีดสารพิษเข้าสู่ร่างกายเหมือนงูเห่าหรืองูกะปะได้ การกัดของงูลายสอหากเกิดขึ้น มักเป็นเพียงรอยถลอกเล็ก ๆ ซึ่งอาจทำให้แสบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และถ้ารักษาความสะอาดก็จะหายได้ในไม่กี่วัน โดยทั่วไปงูชนิดนี้จะไม่กัดเลยหากไม่ได้ถูกจับหรือคุกคามโดยตรง การที่งูลายสอหน้าตาคล้ายงูพิษบางชนิด อาจทำให้คนกลัวและทำร้ายมันโดยไม่จำเป็น ทั้งที่ความจริงแล้วมันเป็นสัตว์ที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศ

สายพันธุ์ของงูลายสอ

งูลายสอมีหลายสายพันธุ์ที่พบในประเทศไทย เช่น งูลายสอบ้าน (Xenochrophis piscator) ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด มีลำตัวสีน้ำตาลเข้มหรือเทา มีลายพาดดำ 3-4 เส้นตามลำตัว หรือเป็นจุดสีเหลืองกระจายทั่วไป อีกชนิดคือ งูลายสอสวน (Fowlea flavipunctatus) ซึ่งมีลวดลายจุดเหลืองเป็นเอกลักษณ์ บางครั้งพบได้ในสวนผลไม้หรือสวนในเมือง และอีกชนิดคือ งูลายสอจุดขาว (Xenochrophis punctulatus) พบได้ในป่าชายเลนหรือพื้นที่ลุ่มน้ำ มีจุดขาวกระจายทั่วลำตัว งูแต่ละชนิดมีลักษณะเฉพาะแต่ล้วนไม่มีพิษและมีนิสัยคล้ายกัน โดยทั้งหมดจัดอยู่ในวงศ์ Colubridae ซึ่งเป็นกลุ่มงูที่ปลอดภัยที่สุดกลุ่มหนึ่งในธรรมชาติ

บทบาทในระบบนิเวศ

งูลายสอถือเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญในระบบนิเวศ โดยมีบทบาทในการควบคุมประชากรสัตว์น้ำขนาดเล็ก เช่น กบ เขียด ปลาหางนกยูง ลูกปลาที่อาจแพร่พันธุ์จนเกินความจำเป็น หากไม่มีงูลายสอในธรรมชาติ อาจส่งผลให้สัตว์น้ำบางชนิดเพิ่มจำนวนมากเกินไปจนเสียสมดุล นอกจากนี้ งูลายสอยังเป็นเหยื่อของสัตว์กินงู เช่น นกเค้าแมว นกกระสา ลิง และแม้แต่งูใหญ่อื่น ๆ จึงเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อาหารที่ช่วยรักษาสมดุลธรรมชาติได้อย่างดีเยี่ยม การอนุรักษ์งูลายสอไว้ในธรรมชาติ จึงเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้การอนุรักษ์สัตว์ชนิดอื่น เพราะงูชนิดนี้ไม่เพียงแต่ปลอดภัย แต่ยังช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมทางอ้อมอีกด้วย มหาลัยวัวชน เนื้อเพลง

ทำอย่างไรเมื่อพบงูลายสอ

หากคุณพบงูลายสอที่บ้านหรือในสวน สิ่งสำคัญคืออย่าตกใจ เพราะมันไม่มีพิษและจะไม่ทำร้ายคุณถ้าคุณไม่ไปจับมันก่อน ให้คุณถอยห่างอย่างช้า ๆ และปล่อยให้มันคลานหนีเอง หากจำเป็น อาจใช้ไม้ยาวหรือไม้กวาดเขี่ยไล่ให้ออกไปจากบริเวณที่อยู่อาศัย ห้ามตี ห้ามใช้ความรุนแรง เพราะนอกจากจะไม่จำเป็นแล้ว ยังเสี่ยงต่อการถูกกัดได้โดยไม่ตั้งใจ หากพบในปริมาณมากหรือในจุดอันตราย เช่น ห้องน้ำหรือห้องนอน สามารถโทรแจ้งหน่วยงานท้องถิ่น หรือกู้ภัยที่มีประสบการณ์ในการจับงูเพื่อความปลอดภัยสูงสุด และเพื่อให้งูได้กลับคืนสู่ธรรมชาติต่อไป

Leave a Comment