นวนิยายจีนออนไลน์เรื่อง ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน กลายเป็นที่นิยมในหมู่นักอ่านไทยอย่างรวดเร็วเพราะเนื้อหาที่ดึงดูดใจและสะท้อนความฝันของคนธรรมดาที่ได้กลายเป็นมหาเศรษฐีแบบไม่คาดฝัน ตัวเอกชื่อว่า “เย่เฉิน” เคยใช้ชีวิตอย่างลำบาก ถูกคนรอบตัวดูถูก เหยียดหยาม และไม่มีใครให้เกียรติ แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้รับมรดกจากปู่มูลค่ามหาศาลถึงห้าหมื่นล้านหยวน เงินจำนวนนั้นไม่ได้เปลี่ยนแค่ฐานะของเขาเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนสถานะในสังคม ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง และเปิดโอกาสให้เขาได้ “เอาคืน” กับคนที่เคยเหยียบย่ำเขาอย่างสะใจ เรื่องนี้มีทั้งความรัก ความแค้น การตอบแทนบุญคุณ และการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในโลกธุรกิจ ซึ่งทำให้ผู้อ่านรู้สึกเข้าถึงง่าย อินตาม และอดไม่ได้ที่จะติดตามจนจบ
เหตุผลที่นวนิยายเรื่องนี้ได้รับความนิยม
เหตุผลหลักที่ ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน ได้รับความนิยมสูงคือการเล่าเรื่องที่เข้าถึงอารมณ์มนุษย์ โดยเฉพาะเรื่อง “การพลิกชีวิต” จากคนที่ถูกมองข้ามมาเป็นผู้มีอำนาจ ซึ่งตรงกับความฝันลึก ๆ ของคนหลายคนในโลกแห่งความจริง นอกจากนี้ ตัวละครอย่างเย่เฉินยังเป็นตัวแทนของความพยายาม ความกตัญญู และความยุติธรรมที่หลายคนอยากเห็นในสังคม เนื้อเรื่องมีความต่อเนื่อง อ่านง่าย และใช้ภาษาที่ไม่ซับซ้อน ทำให้สามารถติดตามได้แม้ไม่ใช่แฟนนิยายแนวจีน นอกจากนี้ยังมีฉากธุรกิจ การบริหาร ความรัก และบทเรียนชีวิตที่แทรกอยู่ตลอด จึงตอบโจทย์ผู้อ่านได้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ที่อยากได้แรงบันดาลใจ ไหว้แม่ย่านางรถใช้ธูปกี่ดอก
กฎหมายภาษีมรดกในไทยที่ควรรู้
แม้เรื่อง ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน จะเป็นนิยาย แต่ในความเป็นจริง หากมีใครได้รับมรดกในมูลค่ามหาศาลเช่นนั้น สิ่งที่ตามมาคือภาระทางภาษี โดยกฎหมายภาษีมรดกของประเทศไทยกำหนดว่า หากได้รับทรัพย์สินที่มีมูลค่าเกิน 100 ล้านบาท ผู้รับจะต้องเสียภาษีมรดกในอัตราร้อยละ 10 สำหรับบุคคลทั่วไป หรือร้อยละ 5 หากเป็นทายาทโดยตรงอย่างลูกหรือพ่อแม่ ดังนั้นใครที่มีโอกาสได้รับทรัพย์สินขนาดนี้ จำเป็นต้องรู้จักกฎหมายให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง และควรมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า เช่น การทำพินัยกรรม หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีและกฎหมาย เพื่อจัดการทรัพย์สินอย่างเหมาะสมและไม่ถูกเรียกเก็บภาษีแบบไม่ตั้งตัว